สถานที่รับบริการ
- โรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหาร
- โรงพยาบาล คลีนิค
- โรงเรียน มหาวิทยาลัย
- นิคอุตสาหกรรม โรงงาน โกดังสินค้า
- ไซร์งานก่อสร้าง ห้องน้ำเคลื่อนที่
- ห้างสรรพสินค้า สถานบันเทิง ตลาดสด
- สถานที่ราชการ เขต / อำเภอ
- บริษัท ออฟฟิต สำนักงาน
- คอนโด อพาร์ทเม้น หอพัก
- ทาวเฮ้าส์ ทาวโฮม
- อาคารพานิชตึกแถว หมู่บ้าน บ้านเดี่ยว
- ปั้มน้ำมัน ปั้มแก็ส
10 สิ่งต้องห้ามทิ้งลงชักโครกโดยเด็ดขาด
ชักโครก หรือ โถสุขภัณฑ์ ไม่ใช่ถังขยะที่จะสามารถทิ้งอะไรลงไปก็ได้ เพราะของบางสิ่งบางอย่างที่เราทิ้งลงไปนั้น ไม่สามารถที่จะหายลงไปได้ด้วยการกดชักโครกหรือราดน้ำเสียหมด เพราะมันสามารถที่จะอุดตันอยู่ในท่อ กลายเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการอุดตัน ส่งผลให้เกิดการเน่าเสีย และ สักวันอาจจะย้อนกลับมาได้ และเมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะต้องเรียกช่างมาแก้ไขท่อที่อุดหรือตันนี้ ส่งผลให้เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา และเพื่อเป็นการป้องกันผลที่จะเกิดขึ้นนี้ เราจึงไม่ควรทิ้ง 10 สิ่งของดังต่อไปนี้ลงในชักโครกเป็นอันขาด ได้แก่
1.กระดาษทิชชู่เปียก : สำหรับกระดาษทิชชู่เปียกนั้น เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดท่อตันมาก เพราะว่ากระดาษแบบนี้ไม่สามารถย่อยสลายได้ และ ก่อให้เกิดการอุดตัน คนทั่วไปมักเข้าใจผิด และ ทิ้งมันลงไปในชักโครกเพราะมันใช้ง่าย และ ทิ้งง่าย แถมกดน้ำก็สามารถไหลลงไปในท่อได้ปกติ แต่หารู้ไม่ว่ามันจะส่งผลเสียต่อระบบกำจัดของเสียในระบบสุขาด้วย เพราะกระดาษพวกนี้มีส่วนผสมของโพลิเมอร์พลาสติก ดังนั้นจุลินทรีย์ในระบบสุขา จึงไม่สามารถที่จะย่อยสลายได้ ดังนั้นวิธีที่ถูกต้องที่สุดสำหรับการทิ้งกระดาษทิชชู่เปียกนี้จึงควรทิ้งลงไปในถังขยะให้ถูกต้อง
2.ถุงยางอนามัย : ถุงยางอนามัยเป็นวัสดุชนิดหนึ่งที่ย่อยสลายยากมาก และก็สามารถที่จะอุดตันในรูท่อได้ง่ายเช่นกัน และ เป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องเรียกช่างมาแก้ไขมากที่สุด เพราะบางครั้งทิ้งลงไปแล้ว ถุงยางอนามัยไม่ไหลไปตามท่อแต่ไปติดกับหินปูนในท่อ เมื่อทิ้งหลายๆชิ้นเข้า ถุงยางอนามัยก็จะปิดบังทางไหลของน้ำและของเสีย ดังนั้น จึงไม่ควรทิ้งถุงยางอนามัยลงไปโดยเด็ดขาด ดังนั้นจึงควรที่จะทิ้งลงถังขยะให้ถูกต้องดีกว่า
3.สารเคมีต่าง ๆ : สารเคมีชนิดต่าง ๆ นั้น เช่น น้ำยาทำความสะอาด แอลกอฮอร์ หรือสารชนิดอื่นๆ ไม่ควรนำไปเทในชักโครก เพราะระบบสุขา มีการย่อยสลายของจุลินทรีย์ สารเคมีต่าง ๆ นี้ อาจไปทำให้จุลินทรีย์หยุดย่อยสลายและตายได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ส้วมของท่านตันไวขึ้น และสารเคมีบางชนิด เมื่อทำปฏิกิริยากับแก๊ซในระบบสุขาแล้ว อาจทำให้เกิดการระเบิดขึ้นได้ หรือบางครั้งสารเคมีเหล่านี้อาจรั่วไหลลงสู่แม่น้ำลำคลองได้ ดังนั้นเราจึงไม่ควรทิ้งสารเคมีลงในชักโครกหรือโถสุขภัณฑ์
4.สำลี ทิชชู่ : แม้ว่าของเหล่านี้จะได้มาจากธรรมชาติ และ สามารถที่จะย่อยสลายได้เอง แต่เมื่อมนุษย์เราต้องเข้าห้องน้ำตลอดทั้งวัน ดังนั้นเมื่อมันเข้าไปรวมกันมากๆ มันก็ไม่สามารถที่จะย่อยสลายได้ทัน และ เป็นสาเหตุที่ทำให้ท่ออุดตัน แถมยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ดังนี้เราจึงควรที่จะทิ้งให้มันถูกต้องคือ ทิ้งลงถังขยะ
5.ผ้าอนามัย : ผ้าอนามัยทุกรูปแบบ เมื่อโดนน้ำก็จะขยายตัว ดังนั้นการที่ทิ้งลงไปในชักโครกมันจะอุดตันในทันที และ ยากต่อการนำออกมาด้วย เพราะมันได้ขยายตัวไปในท่อเรียบร้อยแล้ว และ ผ้าอนามัยเป็นสาเหตุที่ต้องจ้างช่างมาแก้ไขมากที่สุด เพราะไม่สามารถที่จะแก้ไขด้วยตัวเองได้ ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษที่จะสามารถทะลวงไปตามข้อต่อของท่อได้ และ ถึงแม้ว่าบางครั้งมันจะไม่อุดตันเพราะทางเดินของท่อที่สั้น แต่เมื่อมันลงไปในถังเก็บของเสีย มันก็จะขยายตัวขึ้น และ มันก็ไม่สามารถที่จะย่อยสลายเองได้ด้วย ก็จะส่งผลให้ส้วมเต็มไวขึ้น
6.เส้นผม : เส้นผมเมื่ออยู่ใกล้กันมันจะรวมกันเป็นก้อน ดังนั้น การที่เราทิ้งเส้นผมลงไปในชักโครกมันก็จะส่งผลให้ท่ออุดตันได้ เหมือนตอนที่เราเห็นเส้นผมอุดตามท่อระบายน้ำ จึงไม่ควรทิ้งลงไป
7.ไหมขัดฟัน : เหตุผลเช่นเดียวกันกับเส้นผม
8.ทรายแมวและอึแมว : บางครั้งคนเลี้ยงแมวก็รังเกียจที่จะคอยตักอึแมวออกจากทรายแมว หรือ บางครั้งความขี้เกียจก็ทำให้คนเลี้ยงแมวเลือกที่จะทิ้งทั้งทราย และอุจจาระแมวลงไปในชักโครกเลย แต่จริงๆแล้วเราไม่ควรทำเช่นนั้น เพราะทรายแมวอาจไปอุดตันตามท่อได้ เพราะเมื่อมันโดนน้ำมันจะจับตัวกันเป็นก้อน และ ทำให้ส้วมอุดตันในที่สุด ดังนั้นจึงควรนำไปทิ้งถังขยะให้ถูกต้อง
9.ซากสัตว์ : ซากสัตว์ชนิดต่างๆ ไม่ควรนำลงไปทิ้ง เพราะจะก่อให้เกิดเชื้อโรค และ พยาธิได้ จึงควรนำไปทิ้้งขยะหรือฝังกลบให้ถูกต้อง
10.อาหาร : การที่ทิ้งเศษอาหารลงไปในชักโครก แม้ว่าอาหารเหล่านั้นจะย่อยสลายได้เองโดยธรรมชาติ แต่เมื่อมันยังไม่ผ่านการย่อยสลายมาเลย การที่ทิ้งลงไปนั้นกว่าจะย่อยสลายได้เองก็ใช้เวลานาน เมื่อทิ้งลงไปในปริมาณที่มากๆเข้า ก็จะทำให้เกิดการเต็มของถังเก็บของเสียได้